วันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม 2568 สถาบันพลังจิตตานุภาพ นำโดย เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา พระราชวชิราลังการ (หลวงพ่อคำปอน สุทธิญาโณ) และพระราชปัญญาวชิโรดม (พระอาจารย์สุพล ขนฺติพโล) ได้นำนักศึกษาหลักสูตรครูสมาธิจากทั่วประเทศจำนวนประมาณพันคนมาที่วิทยาเขตสีคิ้ว นิด้า เพื่อสอบปฏิบัติภาคสนาม (ธุดงค์) และน้อมรำลึกถึงหลวงพ่อวิริยังค์
เมื่อสามสิบปีก่อนหลวงพ่อวิริยังค์ได้เมตตานำศิษยานุศิษย์บริจาคสร้างอาคารหลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร มูลค่า 40 กว่าล้านบาท ปัจจุบันอาคารยังมีสภาพแข็งแรง และสถาบันได้ขยายการศึกษาที่นี่ในระดับปริญญาโทให้กับคนในพื้นที่ สาขารัฐประศาสนศาสตร์ และนิติศาสตร์ ตลอดจนมีหลักสูตรการอบรมเพิ่มทักษะและโครงการหญ้าแฝกเพื่อทำน้ำยาบ้วนปาก และอื่นๆ เพื่อช่วยพัฒนาชุมชนและพื้นที่
จากการบันทึกของศิษย์เก่านิด้า MPPM รุ่นที่ 4 สีคิ้ว ใต้รูปของหลวงพ่อวิริยังค์ที่ติดอยู่ที่อาคารหลวงพ่อวิริยังค์ ได้ทราบว่าเมื่อหลวงพ่อวิริยังค์ ได้รับทราบความตั้งใจของทางสถาบันในการสร้างศูนย์การศึกษาสีคิ้วในปี 2536 โดยผ่านทาง ศ.ดร.บุญทัน ดอกไธสง อาจารย์อาวุโสคณะรัฐประศาสนศาสตร์ในขณะนั้น ท่านเห็นว่าตรงกับเจตนารมณ์ของหลวงพ่อที่เห็นว่าบริเวณที่ตั้งมีทิวทัศน์งดงาม มีภูเขาอยู่ด้านหลัง ติดถนนมิตรภาพ ท่านเล่าให้กำนันกฤษฎา กำนันตำบลมิตรภาพในขณะนั้นว่าท่านเคยมาอาศัยเลี้ยงวัดอยู่เชิงเขาแห่งนี้ และก่อนจะเกิดอาคารหลังแรกขึ้น หลวงพ่อวิริยังค์ได้มาธุดงค์ที่นี่ และนิมิตเห็นแสงสว่างเหมือนไฟพะเนียงเกิดขึ้น จึงกล่าวกับกำนันกฤษฎาว่า
“ต่อไปในกาลข้างหน้า… ที่แห่งนี้จะเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก”
หลวงพ่อวิริยังค์เป็นผู้ที่เห็นความสำคัญของการศึกษาเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นระดับปริญญาโทอย่างนิด้า หรือกระทั่งศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเพื่อสร้างรากฐานของการสร้างคนให้มีคุณภาพ โดยเฉพาะในพื้นที่ๆ มีความยากจนและขาดโอกาส โดยในปี 2512 ท่านได้ไปดูงานศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่เยอรมัน ซึ่งสามารถพัฒนาให้คนเยอรมันเติบโตเพื่อไปสร้างประเทศให้เจริญได้ เมื่อท่านกลับไทย จึงได้แปรแนวคิดให้เป็นรูปธรรมและทำต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 40 ปี จึงเห็นได้ว่าท่านให้ความสำคัญกับการศึกษาในทุกระดับ
นอกจากช่วยหาทุนในการสร้างสถานบ่มเพาะการเรียนรู้ให้เป็นรูปธรรม ท่านยังมาช่วยดูแลการก่อสร้างด้วยตัวของท่านเองอีกด้วยโดยเฉพาะที่ศูนย์การศึกษาสีคิ้ว ตอนนี้ศูนย์ได้รับการยกฐานะเป็นวิทยาเขตสีคิ้วแล้ว จึงถือว่าท่านมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างแสงสว่างทางปัญญาขึ้นที่นี่ จึงควรแสวงหาการสร้างพันธมิตรในการสานต่อภารกิจเพื่อให้เป็นดังไฟพะเนียงที่จะสร้างความเจริญรุ่งเรืองอย่างยั่งยืนให้กับพื้นที่นี้ดังนิมิตของหลวงพ่อต่อไป
