มหาวิทยาลัยจะสร้างความสงบสุข ความยุติธรรมให้กับสังคม ได้อย่างไร?

มหาวิทยาลัยจะสร้างความสงบสุข ความยุติธรรมให้กับสังคม ได้อย่างไร? (SDG 16)

โดย รศ.ดร.ประพนธ์ สหพัฒนา ผอ.หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต ศูนย์การศึกษาจังหวัดนครราชสีมา คณะรัฐประศาสนศาสตร์

นิด้ายึดปรัชญา Wisdom for Sustainable Development มุ่งสร้างปัญญาและผู้นำเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน บทสนทนานี้ชวนมอง SDG 16: ความสงบสุข ความยุติธรรม และสถาบันที่เข้มแข็ง ผ่านบทบาทของมหาวิทยาลัยในฐานะผู้ผลิตองค์ความรู้ พื้นที่สาธารณะของการเรียนรู้ และกลไกหนุนเสริมธรรมาภิบาลของสังคม

SDG 16 คืออะไร ทำไมจึงเป็นฐานของเป้าหมายอื่น

รศ.ดร.ประพนธ์ อธิบายว่า SDG 16 มุ่งลดความรุนแรง สร้างความยุติธรรม เสริมความเข้มแข็งของสถาบัน และยกระดับธรรมาภิบาล ประเด็นสำคัญครอบคลุมตั้งแต่การเข้าถึงความยุติธรรม สิทธิและเสรีภาพพื้นฐาน ความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ไปจนถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการตัดสินใจ ประเด็นนี้จึง “พาดผ่าน” เป้าหมายอื่น ๆ ของความยั่งยืนและเป็นฐานให้สังคมก้าวหน้าอย่างมีเสถียรภาพ

บทบาทของมหาวิทยาลัย: สร้างคน สร้างความรู้ สร้างระบบ

มหาวิทยาลัย โดยเฉพาะนิด้า มีบทบาทเชิงรุก 3 มิติ

1) วิจัยเพื่อคำตอบสาธารณะ

การทำวิจัยคือกระบวนการตั้งคำถามและหาคำตอบต่อปัญหาสังคม แล้วเผยแพร่สู่สาธารณะและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หัวข้อที่เกี่ยวกับ SDG 16 ได้แก่

  • การยุติความขัดแย้งและการจัดการความขัดแย้ง (conflict resolution)
  • การเข้าถึงความยุติธรรมและประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมาย
  • หลักนิติธรรม (Rule of Law) การต่อต้านการทุจริต และความโปร่งใส
  • ธรรมาภิบาลและความเข้มแข็งของสถาบัน สิทธิมนุษยชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน

2) การบริหารจัดการสถาบันที่ “เปิดเผยและมีส่วนร่วม”

นิด้าให้ความสำคัญกับ กระบวนการมีส่วนร่วม ตั้งแต่ก่อนออกนโยบาย ระหว่างดำเนินนโยบาย จนถึงการทบทวน/ปรับปรุง เปิดเผยข้อมูลสำคัญ (เช่น การเงิน การจัดซื้อจัดจ้าง) ประกาศเจตจำนง ไม่รับสินบน–ไม่ทุจริต และคุ้มครองเสรีภาพทางวิชาการภายใต้หลักการและความรับผิดชอบ

3) บริการวิชาการและเวทีสาธารณะ

นิด้าสนับสนุนการให้คำปรึกษาเชิงนโยบายแก่หน่วยงานรัฐและท้องถิ่น สร้างพื้นที่ถกเถียงอย่างสร้างสรรค์ (เช่น เวทีดีเบตทางสาธารณะ) เพื่อให้ความเห็นต่างถูก “ฟังและจับต้องได้” ลดโอกาสเกิดความตึงเครียดเชิงสังคม พร้อมทั้งยกระดับศูนย์การศึกษา/วิทยาเขตต่างจังหวัดด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ราชการ และธุรกิจในพื้นที่

จากงานวิจัยสู่นโยบาย: ทำให้ “ใช้การได้จริง”

องค์ความรู้จากงานวิจัยถูกส่งต่อเป็นข้อเสนอเชิงนโยบายหรือแนวปฏิบัติให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น หน่วยบังคับใช้กฎหมาย องค์กรภาครัฐ และภาคส่วนอื่น ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดช่องว่างการเข้าถึงบริการของรัฐ และเสริมสร้างความไว้วางใจต่อกระบวนการยุติธรรม

ความท้าทายที่ยังต้องร่วมกันแก้

รศ.ดร.ประพนธ์ชี้ให้เห็นความท้าทายสำคัญที่ทำให้ความก้าวหน้าตาม SDG 16 ยังไม่เร็วเท่าที่หวัง ได้แก่

  • ความเหลื่อมล้ำและความไม่เป็นธรรม ในมิติเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิต
  • ความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรม ที่ถูกบั่นทอนจากเหตุการณ์หลากหลายบริบท
  • เสถียรภาพทางการเมือง และความขัดแย้งระหว่าง/ภายในประเทศ
  • ปัญหาคอร์รัปชันและความโปร่งใส ของสถาบันบางส่วน
  • ประสิทธิภาพของสถาบัน และการกระจายทรัพยากร/บริการสาธารณะให้เข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม

ทางเดินต่อไป: ทำอย่างไรให้ SDG 16 ขยับได้จริง

  • วางระบบการรับฟังและมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างต่อเนื่อง
  • สร้างกลไกความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และสื่อสารเชิงรุก
  • เชื่อมงานวิจัยกับการตัดสินใจเชิงนโยบายให้ชัดเจนและวัดผลได้
  • สนับสนุนเสรีภาพทางวิชาการควบคู่ความรับผิดชอบ เพื่อเปิดพื้นที่ความเห็นต่าง
  • สร้างคนรุ่นใหม่ให้เข้าใจ กฎหมาย–ธรรมาภิบาล–สิทธิพลเมือง ในแทบทุกสาขาวิชา

#ความยุติธรรม #ความสงบสุข #ธรรมาภิบาล #RuleOfLaw #ต่อต้านคอร์รัปชัน #การมีส่วนร่วม #โปร่งใสตรวจสอบได้ #NIDA #คณะรัฐประศาสนศาสตร์ #งานวิจัยเชิงนโยบาย #สถาบันที่เข้มแข็ง