Authors
ศ.ดร.บรรเจิด สิงคะเนติ หัวหน้าโครงการและคณะ
การศึกษาวิจัยเรื่อง สภาพบังคับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 74
และข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2562 ข้อ 44 และข้อ 45 นี้มีวัตถุประสงค์ในการศึกษาวิเคราะห์หลักเกณฑ์ วิธีการ รูปแบบ และ
มาตรการหรือบทกำหนดโทษที่เกี่ยวกับสภาพบังคับของคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และเปรียบเทียบสภาพบังคับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ โดยศึกษาเปรียบเทียบ กรณีของไทยกับต่างประเทศ 7 ประเทศใน 3 ทวีป อันนำมาสู่ข้อเสนอแนะแนวทางในการพัฒนาหรือแก้ไขปรับปรุงกฎหมายหรือแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับสภาพบังคับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 74 และข้อกำหนดศาลรัฐธธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2562 ข้อ 44 และข้อ 45
จากการศึกษาพบว่า คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญไม่จำเป็นต้องมีการบังคับตามคำวินิจฉัยทุกประเภท เฉพาะคำวินิจฉัยเพื่อให้กระทำการเท่านั้นที่จะต้องมี
การดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ หากผู้ผูกพันตามคำวินิจฉัยไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามคำวินิจฉัยต้องมีมาตรการบังคับให้เป็นไปตาม
คำวินิจฉัย ส่วนคำวินิจฉัยประเภทขอให้พิสูจน์สิทธิโดยทั่วไปแล้วย่อมไม่จำม่จำเป็นต้องมีการบังคับให้เป็นไปตามคำวินิจฉัยแต่อย่างใด เว้นแต่จะมีผลข้างเคียงจากคำวินิจฉัยที่อาจจำเป็นที่จะต้องมีการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง ส่วนคำวินิจฉัยที่เป็นการก่อตั้งสิทธิอาจมีกรณีที่จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามคำวินิจฉัยได้
จากการศึกษาคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญของไทยซึ่งมีประเด็นการบังคับให้เป็นไปตามคำวินิจอัยทั้งหมด 11 คำวินิจฉัย พบว่าบางคำวินิจฉัยศาลวินิจฉัยว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าวขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ โดยกำหนดคำบังคับให้คำวินิจฉัยมีผลในอนาคต เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อการบังคับใช้กฎหมาย และมีข้อแนะนำในประเด็นที่ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน บางคำวินิจฉัยก็วินิจฉัยว่า กฎหมายที่ร้องมานั้นไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแต่มีข้อแนะนำว่ารัฐสภา คณะรัฐมนตรี และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องสมควรพิจารณาดำเนินการตรากฎหมายเพื่อรับรองสิทธิและหน้าที่ของบุคคลอย่างเหมาะสมต่อไป บางคำวินิจฉัยศาลวินิจฉัยว่าหน่วยงานของรัฐปฏิบัติหน้าที่ถูกต้องครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญแล้ว แต่มีข้อแนะนำให้ดำเนินการให้เหมาะสมต่อไป อนึ่ง คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญส่วนที่จะนำไปสู่การกำหนดคำบังคับได้หมายเฉพาะส่วนที่มีผลผูกพันเท่านั้น ดังนั้น ส่วนของคำแนะนำและคำเตือนย่อมไม่มีผลผูกพันและย่อมไม่สามารถนำไปสู่การกำหนดคำบังคับได้
ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะกรณีการทำคำวินิจฉัยในคดีที่วินิจฉัยว่ากฎหมายขัดต่อรัฐธรรมนูญต้องคำนึงถึงการปกป้องคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของผู้ได้รับผลกระทบจากความไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญของกฎหมายนั้น ๆ ก่อนเสมอ ส่วนประเด็นการบังคับให้ฝ่ายนิติบัญญัติต้องดำเนินการแก้ไขกฎหมายให้สอดคล้องเหมาะสมต่อไปนั้นเป็นอีกส่วนหนึ่งซึ่งอาจจะกำหนดหรือไม่ก็ได้ และเห็นควรให้ศาลใช้อำนาจกำหนดกรอบระยะเวลาในการแก้ไขกฎหมายฉบับนั้น และวางกฎเกณฑ์ให้มีผลเป็นการชั่วคราวระหว่างที่กฎหมายของฝ่ายนิติบัญญัติยังแก้ไขไม่เสร็จ เพื่อให้มีสภาพบังคับที่เป็นการคุ้มครองสีทธิและเสร็ภาพของผู้อยู่ในกับของกฎหมายภายภายในกรอบเวลาที่ศาลกำหนด แต่หากพ้นกำหนดระยะเวลานั้นแล้วฝ่ายนิติบัญญัติยังคงแก้ไขกฎหมายไม่เสร็จกฎหมายนั้นก็จะสิ้นผลไปโดยผลดำวินิจฉัยศาลรัฐธธธรรมนูญ