ด้วยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จเร สิงหโกวินท์ ตำแหน่งคณบดีคณะพัฒนาสังคมและยุทธศาสตร์ การบริหาร จะครบวาระการดำรงตำแหน่งคณบดี เป็นวาระที่ 1 ในวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2568
อาศัยอำนาจตามความในข้อ 11 และข้อ 14 ของข้อบังคับสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ว่าด้วยคุณสมบัติ หลักเกณฑ์ และวิธีการได้มา การพ้นจากตำแหน่ง และหน้าที่และอำนาจของผู้ดำรงตำแหน่งคณบดีและรองคณบดี พ.ศ. 2565 จึงออกประกาศการรับสมัครและการเสนอชื่อบุคคลเพื่อเข้ารับการเลือกตั้งเป็นคณบดีคณะพัฒนาสังคมและยุทธศาสตร์การบริหาร โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
คุณสมบัติ และลักษณะต้องห้ามของผู้มีสิทธิเข้ารับการเลือกตั้งเป็นคณบดี
- คุณสมบัติ
- มีคุณสมบัติตามมาตรา 45 แห่งพระราชบัญญัติสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ พ.ศ. 2562 คือ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาชั้นหนึ่งชั้นใดหรือเทียบเท่าจากสถาบันหรือสถาบันอุดมศึกษาอื่นที่สภาสถาบันรับรอง และได้ทำการสอนในสถาบันหรือสถาบันอุดมศึกษาอื่นที่สภาสถาบันรับรองมาแล้วไม่น้อยกว่าสามปี หรือมีประสบการณ์ด้านการบริหารมาแล้วไม่น้อยกว่าสามปี
- เป็นผู้ผ่านการอบรมหลักสูตรพัฒนาสมรรถนะผู้บริหารสถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์ ตามประกาศสภาสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เรื่อง การพัฒนาสมรรถนะผู้บริหารสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ พ.ศ. 2552 กรณีที่ยังไม่ผ่านการอบรมหลักสูตรการพัฒนาสมรรถนะผู้บริหารฯ ข้างต้น จะต้องเข้ารับการอบรมหลักสูตรดังกล่าวภายใน 1 ปี นับจากได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งคณบดี
- เป็นผู้ปฏิบัติตามเงื่อนไขต่าง ๆ จากการบรรจุเข้าปฏิบัติงานในสถาบัน การประเมินผลการปฏิบัติงานเพื่อต่อสัญญาจ้าง และการประเมินผลการปฏิบัติภาระงานทางวิชาการประจำปีครบถ้วนแล้ว
- เป็นผู้ปฏิบัติงานในสถาบันสายวิชาการ
- ลักษณะต้องห้าม
- เป็นผู้ดำรงตำแหน่งคณบดีมาแล้วสองวาระติดต่อกันก่อนวันรับสมัคร
- เป็นข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยงานอื่นของรัฐ หรือหน่วยงานเอกชน
- เป็นคนวิกลจริต หรือมีกายทุพพลภาพจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ เป็นผู้ไร้ความสามารถ เสมือนไร้ความสามารถ หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
- เป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดี หรือกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง
- เป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกสั่งให้พักราชการ หรือถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา หรือตามกฎหมายอื่น
- เป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง
- เป็นหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลาย
- เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก ปลดออก หรือไล่ออกจากสถาบันหรือหน่วยงานของรัฐ หรือเป็นผู้ถูกเลิกจ้างจากหน่วยงานเอกชน โดยไม่ได้รับค่าชดเชยตามกฎหมาย
- เป็นผู้เคยกระทำการทุจริตในการสอบเข้ารับราชการหรือเข้าปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานเอกชน
- เป็นผู้มีลักษณะการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวมของสถาบันตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
- เป็นผู้เคยถูกลงโทษความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
ลักษณะต้องห้ามตามข้อ 1.2 (2) ถึง (12) ให้หมายความรวมทั้งกรณีที่เกิดขึ้นภายในประเทศและต่างประเทศ