กรกต อินเตอร์เนชั่นนอล Fishing for Innovative Designs

“BCG พอเพียง” Series EP:18 กรกต อินเตอร์เนชั่นนอล Fishing for Innovative Designs อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี

โดย ดร.ปรียานุช ธรรมปิยา
ที่ปรึกษาศูนย์ศึกษาการพัฒนาที่ยั่งยืนและเศรษฐกิจพอเพียง

ธุรกิจท้องถิ่นที่ยกระดับงานหัตถกรรมเมืองเพชรบุรีด้วยการต่อยอดไม้ไผ่ ฟื้นฟูเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตชุมชนด้วยต้นทุนธรรมชาติและรากเหง้าวัฒนธรรม ด้วยกระบวนการผลิตบนแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน บรรเทาผลกระทบจากภาวะโลกร้อน ส่งเสริมการเกื้อกูลกันในสังคมผ่านการขยายเครือข่ายในชุมชนและท้องถิ่นใกล้เคียง เผยแพร่หลักเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อนำคนรุ่นใหม่ในชุมชนกลับสู่เส้นทางที่ยั่งยืน

จุดเริ่มต้น
กรกต อารมย์ดี ผสมผสานเทคนิคการทำว่าวไทยที่ตกทอดมาจากคุณปู่ของเขา เข้ากับศิลปะการผูกเงื่อนที่ชาวประมงและวัสดุใช้ในท้องถิ่น มาสร้างสรรค์โคมไฟ ประติมากรรม การตกแต่งภายใน และศิลปวัตถุอื่นๆ สำหรับโรงแรมทั้งในและต่างประเทศ โดยเริ่มจากโครงการระดับปริญญาโทสาขาวิจิตรศิลป์ ที่มหาวิทยาลัยศิลปากร กลายมาเป็นอาชีพใหม่ที่นำไปสู่การได้รับรางวัลมากมาย อีกทั้งยังได้สนับสนุนชาวประมงกว่า 40 คนจาก 16 ครัวเรือนในหมู่บ้านบ้านแหลมที่เดือดร้อนจากต้นทุนที่สูงขึ้นในการทำประมงพื้นบ้านแต่รายได้กลับลดลง ให้กลายมาเป็นผู้สร้างผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกด้วยภูมิปัญญาและเทคนิคดั้งเดิม

รากเหง้า ความรู้ จินตนาการ
กรกตมองว่า ธรรมชาติกำหนดให้ชาวประมงประกอบอวนและอุปกรณ์จับปลาโดยไม่ใช้ตะปูเหล็กซึ่งจะเกิดสนิมเมื่อสัมผัสกับความเค็ม ส่วนในการทำว่าวแบบดั้งเดิม ชาวประมงนิยมใช้ไม้ไผ่หนามเป็นกรอบสำหรับว่าวก่อนที่จะมัดด้วยเงื่อนที่ใช้ทำอวน เชือกที่พวกเขาใช้ทำจากป่านดิบที่มาจากการต้มหญ้าฝรั่นกับรากต้นไม้และพืชป่าชายเลนในท้องถิ่น แล้วนำมาเคลือบผิวด้านนอกด้วยกาวจากหนังควายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงทนทาน นอกจากนี้เขายังศึกษาการนำไม้ไผ่แต่ละสายพันธุ์ในบ้านแหลมมาใช้ให้เหมาะสม เช่น ไม้ไผ่ที่มีหนามมีเนื้อแน่นจนแทบไม่มีเศษ แต่มีสีโทนเหลืองอบอุ่นและมีความยืดหยุ่นสูง จะเหมาะที่สุดสำหรับโคมไฟ ประติมากรรม และของประดับตกแต่ง ในขณะที่ไผ่รวกที่มีพื้นผิวที่หยาบและแข็งแรงจะใช้ได้ดีกับหลังคา รั้ว และมือจับเฟอร์นิเจอร์

ต่อยอด ขยายผล ด้วย Korakot School
ภายใต้แบรนด์กรกต ธุรกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากรายได้ 3 ล้านบาทในปีแรก (2555) เป็นมากกว่า 5 เท่าในปัจจุบัน วันนี้กรกตวางแผนที่จะสร้างโรงเรียนกรกต ให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของบ้านแหลม โดยเป็นสถานที่แห่งแรงบันดาลใจสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการฝึกฝนความสามารถด้านช่างฝีมือให้ล้ำหน้า (และทำกำไร) โดยจะแบ่งพื้นที่ออกเป็นสองส่วนสำหรับใช้ฝึกอบรมทั่วไป และสืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นและเทคนิคเฉพาะ เช่น งานปูนปั้น งานลงรักดำทอง งานเป่าแก้ว ปิดทอง เพื่อส่งต่อประเพณีจากรุ่นสู่รุ่นและปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของท้องถิ่น สิ่งสำคัญที่สุดคือการสอนทักษะภาคปฏิบัติที่สามารถสร้างรายได้ที่พอเพียงให้กับคนในชุมชนที่ไม่สามารถพึ่งพาทะเลในการหาเลี้ยงชีพแต่ก็ไม่ต้องการที่จะไปทำงานรับจ้างทั่วไปในเมือง

SDG1 #SDG10 #SDG15 #SuDSESC #Nida #NIDAThailand

ท่านใดสนใจรายละเอียด สามารถอ่านเพิ่มเติมจากบทความต้นฉบับภาษาอังกฤษ “Thailand’s BCG Transformation: 40 Case Studies on the Bio-Circular-Green Strategy and the Sufficiency Economy Philosophy In Action” หน้า 46-51 ข้างล่างได้เลยค่ะ